กระบวนการฟื้นฟูด้วยคลื่นกระแทก (Shock Wave) 
                การฟื้นฟูจะทำโดยพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือนักกายภาพบำบัด โดยหลักการทำงานของเครื่อง คือ การส่งผ่านคลื่นกระแทก (Shockwave) เข้าไปในบริเวณที่มีอาการปวด เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการบาดเจ็บใหม่ (Re-Injuries) ในบริเวณกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นที่มีปัญหา จากนั้นร่างกายจะเกิดกระบวนการซ่อมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ (Re-Healing) จะช่วยลดอาการปวดได้ โดยลดปริมาณสารสื่อประสาทที่ส่งสัญญาณปวดและกระตุ้นให้หลั่งสารลดปวด จึงเห็นผลได้ทันทีหลังการฟื้นฟู
 
ผลที่ได้จากการฟื้นฟูและระยะในเวลาการรักษาด้วยคลื่นกระแทก (Shock Wave)            
                ผู้ป่วยจะมีอาการปวดลดลงเกือบ 50% หรือบางรายหายปวดหลังทำการฟื้นฟูในครั้งแรก (ในกรณีที่เป็นในระดับความรุนแรงเล็กน้อยหรือเพิ่งเริ่มมีอาการ) จากนั้นควรเว้นระยะห่างการฟื้นฟูครั้งถัดไป 1- 2 สัปดาห์ เพื่อให้เวลาร่างกายซ่อมแซมการอักเสบเรื้อรังที่เป็นอยู่โดยธรรมชาติ โดยจำนวนครั้งในการฟื้นฟูจะเริ่มต้นที่ 2-5 ครั้งแล้วแต่ความรุนแรงของอาการขอแต่ละบุคคล
 
ประโยชน์และข้อดีการฟื้นฟูด้วยคลื่นกระแทก (Shock Wave)
                ประโยชน์ของการรักษาอาการปวดในบริเวณต่างๆ ของร่างกายด้วยเครื่องช็อคเวฟคลื่นกระแทกมีมากมาย คลื่นกระแทกสามารถกระแทกลึกเข้ากล้ามเนื้อได้ราว 3-4 เมตร ทำให้เกิดผลทางชีวภาพในเนื้อเยื่อดังต่อไปนี้

• กระตุ้นการไหลเวียนเลือด
• กระตุ้นให้เกิดการสร้างหลอดเลือดใหม่
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
• ยับยั้งกระบวนการอักเสบ
• ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ
• จุดเจ็บได้รับการผ่อนคลาย
• สลายหินปูนในเส้นเอ็น
• กระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการบาดเจ็บใหม่ จนเกิดกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นใหม่

 
ใครที่เหมาะกับการฟื้นฟูด้วยคลื่นกระแทก (Shock Wave)                     
การฟื้นฟูด้วย Shockwave เหมาะสำหรับใช้รักษาอาการปวดเรื้อรังตามร่างกาย เช่น

• ผู้ที่มีอาการปวดบริเวณข้อต่อสะโพก
• ผู้ที่มีอาการเอ็นอักเสบเรื้อรัง
• ผู้ที่มีอาการปวดข้อเข่าในนักกีฬากระโดดสูง
• ผู้ที่มีอาการปวดข้อไหล่
• ผู้ที่มีอาการปวดส้นเท้า
• ผู้ที่มีอาการอักเสบของกล้ามเนื้อบริเวณสันหน้าแข้ง
• ผู้ที่มีอาการปวดข้อศอกด้านนอก

รวมถึงผู้ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรม ปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ที่มักมีอาการดังต่อไปนี้

• ปวดคอ บ่า ไหล่
• ปวดหลัง ปวดเอว
• ปวดแขนขา
• ปวดกราม ต้นคอ
• ปวดข้อมือ ฝ่ามือ
• ไมเกรน

ขั้นตอนการฟื้นฟูด้วยคลื่นกระแทก (Shock Wave)   

• เริ่มทำ Shockwave ด้วยแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ
• เครื่อง Shockwave จะส่งผ่านคลื่นกระแทกไปยังบริเวณกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อที่มีอาการปวด
• คลื่นกระแทกจะกระตุ้นร่างกายให้เกิดอาการบาดเจ็บใหม่ในบริเวณที่มีอาการปวด
• กล้ามเนื้อหรือเอ็นในบริเวณดังกล่าวจะเกิดการซ่อมสร้างเนื้อเยื่อใหม่
• ลดอาการปวดจากการลดปริมาณสารสื่อประสาทที่ส่งสัญญาณปวด
• กระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารลดปวด

 
ข้อควรระวังการฟื้นฟูด้วยคลื่นกระแทก (Shock Wave)           

• ไม่ควรใช้บริเวณกล้ามเนื้อที่เป็นตำแหน่งของปอด
• หลีกเลี่ยงบริเวณกล้าเนื้อ คอ หลังใบหู
• ระวังการใช้ฟื้นฟูในผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับแก้วหูอักเสบ (chronic otitis media)

 
ข้อห้ามในการฟื้นฟูด้วยคลื่นกระแทก (Shock Wave)              

• ห้ามใช้ฟื้นฟูกับเด็ก
• ห้ามใช้ฟื้นฟูกับหญิงตั้งครรภ์
• ห้ามใช้ฟื้นฟูกับบริเวณที่มีการติดเชื้อ
• ห้ามใช้ฟื้นฟูกับคนไข้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ
• ห้ามใช้ฟื้นฟูกับบริเวณที่มีหลอดเลือดโป่งพอง
• ห้ามใช้ฟื้นฟูกับบริเวณที่เป็นเนื้องอก
• ห้ามใช้ฟื้นฟูกับบริเวณที่มีการอักเสบของเส้นประสาท
• ห้ามใช้ฟื้นฟูผู้ที่มีโรคกระดูดเปราะ

 
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฟื้นฟูด้วยคลื่นกระแทก (Shock Wave)                    
ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยคลื่นกระแทก Shockwave สามารถเตรียมตัวเบื้องต้นได้ตามคำแนะนำต่อไปนี้

• พักผ่อนให้เพียงพอ
• นอนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
• คลายเครียด ลดความเกร็งของกล้ามเนื้อ
• ไม่ต้องอดอาหาร
• วัดความดันก่อนทำ Shockwave เสมอ

 
การดูแลตัวเองหลังฟื้นฟูด้วยคลื่น Shockwave         
หลังเข้ารับการรักษาด้วยคลื่นกระแทก Shockwave ในบริเวณที่รักษาอาจมีอาการปวดระบมเนื่องจากแรงกระตุ้น เบื้องต้นสามารถลดการระบมของกล้ามเนื้อได้โดย

• ยืดกล้ามเนื้อ เพราะจะช่วยให้อาการระบมลดลง
• ประคบเย็น Cold Pack หรือ Ice Massage การประคบเย็นจะช่วยให้เส้นเลือดหดตัว ช่วยระงับอาการบวม
• หลังทำ Shockwave ควรหลีกเลี่ยงการนวด เพราะจะยิ่งทำให้เกิดการอักเสบมากยิ่งขึ้น

 
ผลข้างเคียงการฟื้นฟูด้วยคลื่นกระแทก (Shock Wave)            
                ขณะที่ทำการฟื้นฟูจะมีอาการเจ็บ ตรงตำแหน่งที่มีการอักเสบ หรือ บาดเจ็บ เพื่อให้เกิดการรักษาตัวบริเวณนั้น แต่สามารถปรับพลังงานขณะยิงให้เหมาะสมได้ ให้อาการเจ็บอยู่ในระดับที่พอทนได้ หลังรักษาเสร็จอาจจะรู้สึก ล้า ระบม ได้ปกติหากระบมมากให้ประคบเย็นบริเวณนั้น 15-20 นาที ติดต่อกัน 1 -2 วัน หลังจากนั้นอาการปวดจะลดลงและได้เซลล์กล้ามเนื้อใหม่ที่
สมบูรณ์ขึ้น อาการปวดกล้ามเนื้อ บวม ผื่นแดง ห้อเลือด และเป็นก้อนเลือด (hematom) อาการเหล่านี้ส่วนมากจะหายภายใน 5-10 วัน แต่หากผู้ป่วยพบอาการดังกล่าวเกินระยะเวลานี้ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจสอบร่างกาย