เอาชนะ...โรคภูมิแพ้

1 Views

  อังคารที่ 23 สิงหาคม 2565

โรคยอดนิยมที่เป็นกันมากทั่วโลก คงหนีไม่พ้นโรคภูมิแพ้  ปัจจุบันประเทศไทยพบโรคภูมิแพ้ในเด็ก สูงถึงร้อยละ 38 และในผู้ใหญ่ประมาณร้อยละ 20
โรคภูมิแพ้ เป็นภาวะผิดปกติที่ร่างกายมีความไวต่อสารบางอย่างในสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่น ควัน เชื้อรา ละอองเกสรดอกไม้ แมลง ขนสุนัข ขนแมว น้ำหอม อาหารบางชนิด ทำให้ร่างกายมีอาการแสดงออกมา เช่น คัดจมูก คันจมูก จาม คันตา น้ำมูก เป็นต้น

โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่แสดงอาการได้ในหลายระบบของร่างกาย เช่น โรคเยื่อบุจมูกอักเสบภูมิแพ้ หรือโรคภูมิแพ้อากาศ โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้อาหาร ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง รวมถึงผื่นลมพิษเรื้อรัง ซึ่งมีอาการแตกต่างกันไป เช่น
1.ระบบทางเดินหายใจ อาการแสดงทางระบบทางเดินหายใจ เช่น จาม มีน้ำมูก คัดจมูก คันจมูก คันตา เคืองตา ตาแดง น้ำมูกไหลลงคอ  เป็นหวัดเรื้อรัง หูอื้อ ไอ หายใจหอบ
-สาเหตุของโรคภูมิแพ้ของระบบทางเดินหายใจ ส่วนมากเกิดจากสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ
-มีอาการระดับเริ่มต้น คือ น้ำมูกไหล จาม คันจมูก คัดจมูก หรือที่ทั่วไปมักเรียกว่า การแพ้อากาศ
-มีอาการรุนแรง เช่น ไอ แน่นหน้าอก มีอาการหอบ ซึ่งเป็นอาการของโรคหอบหืด
-ในกรณีเด็กเล็กๆ อาจเกิดจากการแพ้อาหารเช่น นมวัว ไข่ จึงแสดงอาการออกมาทางระบบหายใจได้ เช่น หายใจครืดคราด
2. ผิวหนัง  อาการแสดงทางผิวหนัง เช่น ผื่นแดงตามใบหน้าและลำตัว ผื่นลมพิษ ผิวหนังแห้ง คันตามผิวหนัง
-ผื่นลมพิษ ซึ่งสาเหตุหลักๆ ของลมพิษมักเกิดจากอาหารและยา
-ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Eczema) หรือผื่นแพ้จากการสัมผัส มักเกิดขึ้นในเด็กที่มีพันธุกรรมของโรคภูมิแพ้ในครอบครัว หรืออาจเกิดจากการแพ้อาหาร เช่น นมวัว ไข่ ซึ่งทำให้เกิดผื่น โดยมักเกิดบริเวณแก้มในเด็กเล็ก หรือข้อพับในเด็กโต
3. ระบบทางเดินอาหาร อาการแสดงทางระบบทางเดินอาหาร เช่น อาเจียน สำรอก ปวดท้อง ถ่ายเหลว
-อาการปวดท้อง อาเจียน ถ่ายเป็นมูกเลือด เลือดออกในทางเดินอาหาร สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการแพ้อาหารกลุ่มผลิตภัณฑ์นม ไข่ ถั่ว ปลา และกลุ่มอาหารทะเล
4. ระบบอื่นๆ (ที่มักมีอาการรุนแรง)  อาการแสดงในระบบอื่น เช่น ปวดศีรษะ นอนหลับไม่สนิท อ่อนเพลีย
-ผู้ป่วยบางรายมีอาการแพ้มาก อาจมีอาการเกิดขึ้นในทุกระบบ เช่น หอบ  ลมพิษ  ช็อก หรืออาจรุนแรงจนเสียชีวิตหลังจากการกินอาหารบางชนิด เช่น กุ้ง ถั่วลิสง ฯลฯ หรือภายหลังได้รับยาบางอย่าง เช่น เพนิซิลลิน

สาเหตุของโรคภูมิแพ้
1.พันธุกรรม โรคภูมิแพ้ จะเกิดขึ้นได้ง่ายถ้ามีพันธุกรรม เช่น โรคหืด โรคแพ้อากาศ และผื่นภูมิแพ้
2.โรคภูมิแพ้บางอย่าง สาเหตุจากพันธุกรรมไม่ค่อยเป็นปัจจัยสำคัญ เช่น ลมพิษ แพ้จาการสัมผัส อย่างแพ้เครื่องประดับ หรือแพ้เครื่องสำอาง เป็นต้น
3.สิ่งแวดล้อม  เพราะสารก่อภูมิแพ้ที่เข้าสู่ร่างกายเกิดจากสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น  ทั้งจากการหายใจ  การรับประทาน หรือการสัมผัส  สารก่อภูมิแพ้บางอย่างสังเกตได้ง่าย เช่น มีอาการหลังจากรับประทานอาหารทะเลอาจเกิดผื่นลมพิษภายในเวลาครึ่งชั่วโมง หรือกินยาแล้วมีผื่นขึ้น
4.สารก่อภูมิแพ้บางอย่างสังเกตได้ยากเพราะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เช่น เกสร เชื้อราในอากาศ หรือไรฝุ่นในบ้าน ซึ่งพบมากตามที่นอน หมอน โซฟา ห้องรับแขก พรม

การรักษาโรคภูมิแพ้
- หลีกเลี่ยงจากสารที่แพ้ หากทราบว่าแพ้สารอะไร ต้องหลีกเลี่ยงสารนั้นให้มากที่สุด เมื่อสารก่อภูมิแพ้ไม่เข้าร่างกายก็จะไม่มีอาการ  สารก่อภูมิแพ้บางอย่างหลีกเลี่ยงง่าย เช่น หลีกเลี่ยงจากสัตว์เลี้ยง สารบางอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก เช่น เกสรหญ้า เกสรต้นไม้ เชื้อราในอากาศ   สารบางอย่างหลีกเลี่ยงได้ยากแต่ทำให้น้อยลงได้ เช่น ไรฝุ่นตามที่นอน หมอน พรม
-ให้ยาเฉพาะโรคเพื่อรักษา การใช้ยามักเป็นการควบคุมอาการไม่ให้เกิดขึ้น ในปัจจุบันสามารถใช้ยาควบคุมอาการ ลดการอักเสบ
-ออกกำลังกายเป็นประจำ และพักผ่อนให้เพียงพอ
-การฉีดวัคซีน - เป็นการฉีดสารที่คาดว่าผู้ป่วยจะแพ้ที่บริเวณผิวหนังหรือใต้ผิวหนัง ทำให้เซลล์ระบบภูมิคุ้มกันมีการเปลี่ยนแปลง 

แม้ว่าโรคภูมิแพ้จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เราสามารถควบคุมโรคไม่ให้มีอาการหรือทำให้เกิดอาการน้อยที่สุดได้  หากมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นโรคภูมิแพ้ ควรตรวจหาสาเหตุและรักษาอย่างต่อเนื่องและพยายามหลีกเลี่ยง ตลอดจนหมั่นดูแลร่างกายให้แข็งแรง ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยบรรเทาอาการที่จะเกิดขึ้นได้ หากสังเกตพบว่าอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตัดปัญหาที่ต้นเหตุ และป้องกันไม่ให้เกิดอาการที่รุนแรงต่อไป.